ประเภทของหนังและความเหมาะสมในการใช้งาน
1. หนังแท้
หนังแท้ คือ หนังวัวที่ผ่านกรรมวิธีในการผลิตต่าง ๆ เผื่อให้ได้ชิ้นหนังสำหรับการผลิตชิ้นงาน มักใช้ในการนำมา ผลิตกระเป๋าสตางค์ กระเป๋านามบัตร หรือ รองเท้าหนัง ฯลฯ นั่นเองโดยหนังแท้ซึ่งหนังแท้จะมี "กลิ่นของน้ำยาฟอก" อยู่ซึ่ง หากเป็นหนังเทียมจะเป็นกลิ่นเหมือน "พลาสติก" มากกว่า
โดยหนังแท้จะแบ่งออกเป็นหลายประเภทซึ่่งเลเธอร์มายน์ขอยกประเภทของหนังแท้มาให้ 5 ประเภทดังนี้
- หนังบอนเด็ด (Recycle Leather) : เป็นเศษหนังที่ถูกกักไว้ในขั้นตอนของการตัดหนัง และนำมาปั่นเพื่อขึ้นเป็นแผ่นหนังชนิดนี้ จะมีสรรพคุณเหมือนหนังแท้ทุกประกาศในด้านอายุการใช้งาน แต่จะมีความแข็งกว่าหนังแท้ที่เป็นแผ่นปกติอยู่
- หนังกลับ ( Suede & Nubuck Leather ) : เป็นหนังที่อยู่ในส่วนของชั้นกลาง โดย Nubuck และ Suede จะมีข้อแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยโดย Suede นั้นทำมาจากแผ่นหนังวัวด้านใน ( Inner leather ) จึงเป็นส่วนที่ไม่ค่อยคงเทน และดูแลรักษายาก ( เป็นรอยง่าย โดนน้ำไม่ได้ ) เพราะหนังส่วนนี้จะไม่เคยเจอ แดด , ฝน จึงทำให้มีปัญหาในการนำมาใช้งานจริง , หนัง Nubuck จึงมีความคงทนมากกว่า Suede หลายเท่าเนื่องจากเป็นหนังคุณภาพสูงระดับ Full Grain นั้นเอง
- หนังแก้ว : เป็นหนังชนิดที่เรียกได้ว่าเหมาะกับการนำมาทำกระเป๋าถือ , หรือ สินค้าที่ต้องการความ Luxury เนื่องจากตัวหนังมีความ มันวาวจากการเคลือบสารชนิดพิเศษ นั่นเอง และเป็นหนังชนิดที่ดูแลรักษาได้ง่าย แต่สิ่งที่ควรระวังคือ พวกรอยจากปากกา , รอยขีดข่วนจากของมีคม
- หนังฟอกฟาด : เป็นหนังที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้งานจริง เนื่องจาก หนังฟอกฟาด นั้น เป็นหนังที่เมื่ออายุเวลาการใช้งาน ยิ่งนานสีของตัวหนังฟอกฟาด จะยิ่งเข้มขึ้น ชัดเจนขึ้น และสวยขึ้น นั่นเอง โดยหนังฟอกฟาดยังมีความทนทาน อีกด้วย เรียกได้ว่าสวยงามตามท้องเรื่องกันเลยทีเดียว
2. หนังเทียม
หนังเทียม คือ หนังที่ได้มาจากกระบวนการปิโตรเลี่ยม(พลาสติก) ซึ่งเนื้อสัมผัสจะไม่เป็นไปตามธรรมชาติ แบบหนัง Full Grain แต่จะไม่มีตำหนิ - หรือแผลเป็น ผิวเรียบสม่ำเสมอกัน ข้อดีก็คือมีราคาไม่แพงมากนัก ให้ความรู้สึกของหนังแท้เหมือนกันแต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่าหนังแท้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลเช่นกัน
โดยหนังเทียมจะมีอยู่หลัก ๆ 3 ประเภท คือ พียู , เซมิพียู และ พีวีซี
แต่หนังที่นิยมนำมาใช้งานในการผลิตเครื่องหนังจากหนังเทียมมากที่สุด คือ หนัง พียูเนื่องจากมีผิวสัมผัสเหมือนกับหนังแท้มากที่สุด และมีขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ไม่มีมลพิษตกค้าง
โดยหนังพียู จะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- Polycarbonate based PU : อายุการใช้งานอยู่ได้นานถึง 20 ปี
- Polyether based PU : อายุการใช้งาน 7 ปี
- Polyester based PU : อายุการใช้งาน 3 ปี
ซึ่ง ประเภท Polyester จะเป็นที่นิยมมากในหมูสินค้าจำพวกกระเป๋าต่าง ๆ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.leathermine.com